เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันปลา
Fish
Oil
ในปัจจุุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ำมันปลา คือ หนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน
น้ำมันปลาแตกต่างจากน้ำมันตับปลาอย่างไร?
ในปัจจุุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ำมันปลา คือ หนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน
น้ำมันปลาแตกต่างจากน้ำมันตับปลาอย่างไร?
คนไทยเรารู้จัก
"น้ำมันตับปลา"
มาเป็นเวลานาน
โดยใช้เป็นอาหารเสริมซึ่งมีวิตามินที่สำคัญ
คือ วิตามินเอ และ ดี
น้ำมันตับปลาเป็นน้ำมันที่สกัดจากตับปลาทะเลบางชนิด
อาทิเช่น ปลาคอด (COD)
ส่วนน้ำมันปลาที่เราจะกล่าวถึงนี้ไม่ใช่น้ำมันตับปลา
แต่เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนหัวหรือเนื้อของปลาทะเล
ในน้ำมันปลานี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น
(Essential
Fatty Acid) ซึ่งร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้
กรดไขมันจำเป็นชนิดนี้เป็นกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว
มีชื่อเรียกว่า "โอเมก้า-3"
(Omega-3)
ซึ่งมีอยู่ในน้ำมันปลาเป็นปริมาณมาก
น้ำมันปลาประกอบด้วยอะไรบ้าง?
น้ำมันปลาประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภทโอเมก้า-3 อยู่มาก ซึ่งในกลุ่มของโอเมก้า-3 นั้นเรายังสามารถแบ่งได้อีกเป็น 2 ชนิดที่สำคัญ ได้แก่
น้ำมันปลาประกอบด้วยอะไรบ้าง?
น้ำมันปลาประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภทโอเมก้า-3 อยู่มาก ซึ่งในกลุ่มของโอเมก้า-3 นั้นเรายังสามารถแบ่งได้อีกเป็น 2 ชนิดที่สำคัญ ได้แก่
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA
- กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ EPA
น้ำมันปลาช่วยลดไขมันในเลือดได้อย่างไร?
จากการศึกษาพบว่า สามารถลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ถึง 19-24% แต่ไม่ลดคลอเลสเตอรอล การที่มีน้ำมันปลาสามารถลดไขมันในเลือดได้นี้ เชื่อว่าเกิดจาก DHA/EPA ลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ลง โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในตับชื่อ Acylransferases และ Phosphatidatephosphohydrolase นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยเพิ่มปริมาณของ HDL (Highdensity lipoprotein) ซึ่งจะทำให้มีการเก็บโคเลสเตอรอลในเลือด และผนังหลอดเลือดกลับสู่ตับ และเปลี่ยนเป็นน้ำดีเพื่อขับออกนอกร่างกาย
น้ำมันปลาช่วยลดการบวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อย่างไร?
สาร DHA/EPA จะลดการสร้างโพรสตาแกลนดิน (Prosta Glandin) ชนิดลิวโคไตรอีน (Leukotrienes) ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ (Proinfammatory Mediator) ทำให้สามารถลดการอักเสบ และบวมของข้อได้
จากการทดลองของ Tulleken และคณะ ได้ให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) รับประทานน้ำมันปลา 12 กรัม/วัน พบว่าการบวมของข้อ (Joint Swelling Index) รวมทั้งการเคลื่อนไหวลำบากของข้อ (Duration of Morning Stiffness) ลดลง ซึ่งเราสามารถใช้น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวม และการอักเสบของข้อได้
น้ำมันปลาจะช่วยโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันได้อย่างไร?
น้ำมันปลาช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน (Coronary Heart Disease) โดยกลไกของการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น จึงลดทั้งอบัติการณ์การเป็นโรคนี้ และลดอัตราการตีบซ้ำในผู้ที่เป็นโรคนี้แล้ว
สาร DHA ในน้ำมันปลาช่วยบำรุงสมองได้อย่างไร?
ในประเทศญี่ปุ่นช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่า สาร DHA ในน้ำมันปลานั้นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยสาร DHA จะช่วยบำรุงสมองให้ทำงานดีขึ้น DHA ผ่านเข้าไปในสมอง และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า Dendrite บริเวณของ Dendrite นี้จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณ และผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้รับประทานเนื้อปลา
จากการศึกษาพบว่า สามารถลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ถึง 19-24% แต่ไม่ลดคลอเลสเตอรอล การที่มีน้ำมันปลาสามารถลดไขมันในเลือดได้นี้ เชื่อว่าเกิดจาก DHA/EPA ลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ลง โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในตับชื่อ Acylransferases และ Phosphatidatephosphohydrolase นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยเพิ่มปริมาณของ HDL (Highdensity lipoprotein) ซึ่งจะทำให้มีการเก็บโคเลสเตอรอลในเลือด และผนังหลอดเลือดกลับสู่ตับ และเปลี่ยนเป็นน้ำดีเพื่อขับออกนอกร่างกาย
น้ำมันปลาช่วยลดการบวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อย่างไร?
สาร DHA/EPA จะลดการสร้างโพรสตาแกลนดิน (Prosta Glandin) ชนิดลิวโคไตรอีน (Leukotrienes) ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ (Proinfammatory Mediator) ทำให้สามารถลดการอักเสบ และบวมของข้อได้
จากการทดลองของ Tulleken และคณะ ได้ให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) รับประทานน้ำมันปลา 12 กรัม/วัน พบว่าการบวมของข้อ (Joint Swelling Index) รวมทั้งการเคลื่อนไหวลำบากของข้อ (Duration of Morning Stiffness) ลดลง ซึ่งเราสามารถใช้น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวม และการอักเสบของข้อได้
น้ำมันปลาจะช่วยโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันได้อย่างไร?
น้ำมันปลาช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน (Coronary Heart Disease) โดยกลไกของการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น จึงลดทั้งอบัติการณ์การเป็นโรคนี้ และลดอัตราการตีบซ้ำในผู้ที่เป็นโรคนี้แล้ว
สาร DHA ในน้ำมันปลาช่วยบำรุงสมองได้อย่างไร?
ในประเทศญี่ปุ่นช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่า สาร DHA ในน้ำมันปลานั้นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยสาร DHA จะช่วยบำรุงสมองให้ทำงานดีขึ้น DHA ผ่านเข้าไปในสมอง และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า Dendrite บริเวณของ Dendrite นี้จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณ และผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้รับประทานเนื้อปลา
รหัส
40205
ขนาด
1,000
มก.
บรรจุ
90
แคปซูล
ราคา 540
สมาชิก 405 บาท
รหัส
40206
ขนาด
1,000
มก.
บรรจุ
50
แคปซูล
ราคา 350
สมาชิก 262.50 บาท
รหัส 40207 ขนาด 500 มก. บรรจุ 90 แคปซูล ราคา 320 สมาชิก 240 บาท
รหัส 40208 ขนาด 500 มก. บรรจุ 50 แคปซูล ราคา 200 สมาชิก 150 บาท
รหัส 40207 ขนาด 500 มก. บรรจุ 90 แคปซูล ราคา 320 สมาชิก 240 บาท
รหัส 40208 ขนาด 500 มก. บรรจุ 50 แคปซูล ราคา 200 สมาชิก 150 บาท
คำเตือน
:
อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค
ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค.
หรือ
ซื้อสินค้าเองได้ที่ศูนย์กิฟฟารีนทั่วประเทศโดยใช้รหัสสมาชิก
111060942 จะได้รับส่วนลด 25%
คุณอารักษ์ ตัณฑะผลิน โทร.089-115-2982
ถ้าต้องการสมัครสมาชิกเองสามารถนำ ชื่อ- นามสกุล
และรหัสสมาชิกนี้ไปเป็นผู้แนะนำได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น